กองทุนสํารองเลี้ยงชีพ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

  • จัดตั้งขึ้น ด้วยความสมัครใจของนายจ้างและลูกจ้าง
  • โดย ลูกจ้างจ่ายเงินสะสม และนายจ้างต้องจ่ายเงินสมทบ ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในข้อบังคับกองทุน
  • สิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างได้รับจากกองทุนเมื่อเกษียณอายุจะอยู่ในรูปของเงินก้อน หรือ ทยอยรับเป็นงวด
  • จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.

วัตถุประสงค์

  • เพื่อเป็นสวัสดิการแก่ลูกจ้าง โดยเป็นการสร้างหลักประกันแก่ลูกจ้าง เมื่อออกจากงานหรือเกษียณอายุ
  • เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าง นายจ้าง กับ ลูกจ้าง
  • เพื่อเป็นการส่งเสริมการระดมเงินออมผูกพันระยะยาวจากภาคเอกชน เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ประโยชน์ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

นายจ้าง

  • เป็นแรงจูงใจในการทำงานของลูกจ้างให้อยู่กับองค์กรนานขึ้น
  • สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่นายจ้างว่ามีสวัสดิการที่มั่นคง
  • เงินสมทบ จะถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีของบริษัทตามจำนวนที่จ่ายจริง
  • แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง ของพนักงานแต่ละราย
  • เป็นหนึ่งในข้อกำหนด ของการพิจารณารับเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ลูกจ้าง

  • เป็นหลักประกันแก่ตนเองและครอบครัว เมื่อออกจากงานหรือเกษียณอายุ
  • เป็นหนึ่งในช่องทางการออมระยะยาว เพื่อรองรับการเกษียณอายุ
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็น นิติบุคคล แยกต่างหากจาก นิติบุคคลของนายจ้าง และ นิติบุคคลของผู้จัดการกองทุน ทำให้มีความมั่นคง ปลอดภัย
  • เงินออมอยู่ภายใต้การบริหารของมืออาชีพ
  • ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งเงินสะสมที่นำส่งเข้ากองทุน ผลประโยชน์ที่เกิดจากการลงทุน และเงินที่ได้รับเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ

องค์ประกอบเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

"จำนวนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะได้จากเงินสะสมเข้ามาทั้งจากนายจ้างและลูกจ้าง อีกทั้งยังมีโอกาสได้เพิ่มขึ้นจากผลตอบแทนลงทุน"

นายจ้าง

เงินส่วนแรกมาจากการสบทบเงินเข้ากองทุนจากนายจ้าง และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากเงินสมทบ

  • นายจ้างมีเงินสมทบ* 2%-5% ของเงินเดือน นำส่งกองทุน
  • ผลประโยชน์จากเงินสมทบ

ลูกจ้าง

อีกส่วนหนึ่งมาจากเงินสะสมของลูกจ้าง

  • พนักงานนำส่งเงินสะสม* 2%-15% ของค่าจ้างเข้ากองทุน
  • ผลประโยชน์จากเงินสะสม

ทั้งนี้สำหรับลูกจ้างสามารถนำเงินสะสมไปยกเว้นภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท

*เงินสะสมและเงินสมทบ ต้องนำส่ง ภายใน 3 วันทำการของบริษัทนายจ้าง นับจากวันที่จ่ายค่าจ้าง

ในกรณีที่ลูกจ้างออกจากงาน หรือลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุน เงินในแต่ละส่วนจะได้รับไม่เหมือนกัน โดย เงินสะสมของลูกจ้างจะได้รับคืนทั้งหมด ขณะที่เงินสมทบจากนายจ้าง ลูกจ้างจะได้รับตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ

 

 

Hit enter to search or ESC to close